คาดการณ์กำลังซื้ออสังหาฯ หลังฝ่าวิกฤติโควิด-19
สถานการณ์โควิด ได้สร้างผลกระทบกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปโลก ทั้งนี้ “ประเทศไทย” ก็เป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงไม่ต่างจากประเทศอื่น ๆ ผลกระทบมีทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงหัวเมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น พัทยา ภูเก็ต มีผลให้ราคาค่าเช่าและราคาซื้อขาย ตกลงไป 15-20% มากน้อยขึ้นอยู่กับ Supply ในแต่ละพื้นที่
โดยความคิดเห็นส่วนตัว “Mr.Residian” ผมมองว่า กำลังซื้อจะเข้ามาแบบเห็นได้ชัด น่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี หน้า (Q1 ของปี 2022) เนื่องจากการเปิดประเทศอีกครั้งคงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป วัคซีนล้อตใหญ่ที่จะเข้ามาช่วง มิ.ย.ไปจนถึง ธ.ค.2021 คงต้องใช้เวลากว่าจะฉีดคนในประเทศจนครบจำนวน อีกทั้งยังมีการระบาดของโควิดรอบ 3 ที่เพิ่งเกิดขึ้น ทำให้ชาวต่างชาติเองก็ต้องดูผลกระทบนี้ด้วย พูดง่าย ๆ คือ เค้าเองก็กลัวเรา
ถ้าผลของวัคซีนสามารถควบคุมและป้องกันโควิดเป็นไปในทางบวก ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยจะ กลับมาคึกคักอีกครั้งอย่างแน่นอน ถามว่าเพราะอะไร?
ก็ต้องตอบว่าเพราะกระแสความต้องการ “2nd home” ที่อยู่อาศัยในต่างประเทศของชาวต่างชาติในยามที่เกิดความยากลำบากจากผลของการ Lockdown ในประเทศ และประเทศไทยก็เป็นประเทศที่น่าจะเป็นจุดหมายปลายทางของที่ตั้ง 2nd home มากที่สุด
ด้วยเหตุผลที่ได้พิสูจน์มาแล้วจากเรื่อง การควบคุมโควิด ความมีวินัยในการใส่หน้ากากของคนในประเทศ ความก้าวหน้าทางการแพทย์และสาธารณสุข, Service Mind ที่ดีในการต้อนรับชาวต่างชาติของคนในประเทศ รวมถึงความพร้อมในเรื่องอาหารในยามเกิดการ Lockdown ที่ประเทศไทยมีให้อย่างเหลือเฟือ และหาซื้อได้ง่ายแบบ delivery ถึงที่
โดยกลุ่มประเทศที่จะเข้ามาเป็นกำลังซื้อหลัก คงหนีไม่พ้นมหามิตรเพื่อนบ้านอย่างประเทศจีน ซึ่งจะเห็นได้ว่า ก่อนที่จะเกิดโควิดก็เป็นประเทศหลักที่คอยกระตุ้นกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์บ้านเรา และผลกระทบทางเศรษฐกิจของจีนเองก็มีน้อยมากเนื่องจากการควบคุมโควิดที่ดี แต่กลับกันในช่วงเวลาที่เกิดการ Lockdown ในประเทศจีน ทุกคนกลับได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมทั้งหมด ถึงแม้เค้าจะมีเงินมากแค่ไหน
ดังนั้นจะดีแค่ไหนถ้าเกิดกระแส Lockdown แล้วคนกลุ่มนี้สามารถย้ายมาอยู่ 2nd home ในประเทศไทยได้ทันที เค้าคงได้รับการอำนวยความสะดวกสบายอย่างเต็มที่
และตลาดที่น่าจะได้รับอานิสงส์เต็ม ๆ ก็น่าจะเป็นกลุ่มตลาดคอนโด อันเนื่องจากกฏหมายการถือครองที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติถือครองทรัพย์สินที่เป็นคอนโดได้ไม่เกิน 49% แต่ถ้ามีการแก้กฏหมายจากภาครัฐที่แว่ว ๆ ว่า อาจจะให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้ ก็อาจช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในบ้านแนวราบให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการควบคุมโควิด รวมถึงนโยบายการกระตุ้นตลาดในภาคอสังหาริมทรัพย์จากทางภาครัฐ ที่ตอนนี้จำกัดเฉพาะแค่ทรัพย์มือ 1 ที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งทางผมยังมองว่าเป็นการกระตุ้นที่ยังไม่ตรงจุด ต้องได้ยาแรงมากกว่านี้ครับ
ในช่วงนี้จึงเป็นตลาดของผู้ซื้อที่จะเลือกสรรทรัพย์ดี ๆ เข้ามาอยู่ในพอร์ท ได้ทั้งเรื่องราคาและดอกเบี้ยกู้ยืมที่ต่ำแบบไม่เคยเห็นมาก่อน ในทางกลับกัน ผมยังคงแนะนำเจ้าของทรัพย์และนักลงทุนที่มีกำลังเพียงพอให้ถือทรัพย์สินไว้ และรอคอยช่วงเวลาที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขาขึ้นจะกลับมา และเมื่อเวลานั้นมาถึง เราคงจะได้เห็นรอยยิ้มมุมปากจากเจ้าของและนักลงทุน เตรียมพร้อมที่จะสะบัดบ้อบ กวักมือเลือกผู้ซื้อได้ตามต้องการครับ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ผู้เขียน : Mr.Residian
โดยความคิดเห็นส่วนตัว “Mr.Residian” ผมมองว่า กำลังซื้อจะเข้ามาแบบเห็นได้ชัด น่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี หน้า (Q1 ของปี 2022) เนื่องจากการเปิดประเทศอีกครั้งคงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป วัคซีนล้อตใหญ่ที่จะเข้ามาช่วง มิ.ย.ไปจนถึง ธ.ค.2021 คงต้องใช้เวลากว่าจะฉีดคนในประเทศจนครบจำนวน อีกทั้งยังมีการระบาดของโควิดรอบ 3 ที่เพิ่งเกิดขึ้น ทำให้ชาวต่างชาติเองก็ต้องดูผลกระทบนี้ด้วย พูดง่าย ๆ คือ เค้าเองก็กลัวเรา
ถ้าผลของวัคซีนสามารถควบคุมและป้องกันโควิดเป็นไปในทางบวก ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยจะ กลับมาคึกคักอีกครั้งอย่างแน่นอน ถามว่าเพราะอะไร?
ก็ต้องตอบว่าเพราะกระแสความต้องการ “2nd home” ที่อยู่อาศัยในต่างประเทศของชาวต่างชาติในยามที่เกิดความยากลำบากจากผลของการ Lockdown ในประเทศ และประเทศไทยก็เป็นประเทศที่น่าจะเป็นจุดหมายปลายทางของที่ตั้ง 2nd home มากที่สุด
ด้วยเหตุผลที่ได้พิสูจน์มาแล้วจากเรื่อง การควบคุมโควิด ความมีวินัยในการใส่หน้ากากของคนในประเทศ ความก้าวหน้าทางการแพทย์และสาธารณสุข, Service Mind ที่ดีในการต้อนรับชาวต่างชาติของคนในประเทศ รวมถึงความพร้อมในเรื่องอาหารในยามเกิดการ Lockdown ที่ประเทศไทยมีให้อย่างเหลือเฟือ และหาซื้อได้ง่ายแบบ delivery ถึงที่
โดยกลุ่มประเทศที่จะเข้ามาเป็นกำลังซื้อหลัก คงหนีไม่พ้นมหามิตรเพื่อนบ้านอย่างประเทศจีน ซึ่งจะเห็นได้ว่า ก่อนที่จะเกิดโควิดก็เป็นประเทศหลักที่คอยกระตุ้นกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์บ้านเรา และผลกระทบทางเศรษฐกิจของจีนเองก็มีน้อยมากเนื่องจากการควบคุมโควิดที่ดี แต่กลับกันในช่วงเวลาที่เกิดการ Lockdown ในประเทศจีน ทุกคนกลับได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมทั้งหมด ถึงแม้เค้าจะมีเงินมากแค่ไหน
ดังนั้นจะดีแค่ไหนถ้าเกิดกระแส Lockdown แล้วคนกลุ่มนี้สามารถย้ายมาอยู่ 2nd home ในประเทศไทยได้ทันที เค้าคงได้รับการอำนวยความสะดวกสบายอย่างเต็มที่
และตลาดที่น่าจะได้รับอานิสงส์เต็ม ๆ ก็น่าจะเป็นกลุ่มตลาดคอนโด อันเนื่องจากกฏหมายการถือครองที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติถือครองทรัพย์สินที่เป็นคอนโดได้ไม่เกิน 49% แต่ถ้ามีการแก้กฏหมายจากภาครัฐที่แว่ว ๆ ว่า อาจจะให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้ ก็อาจช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในบ้านแนวราบให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการควบคุมโควิด รวมถึงนโยบายการกระตุ้นตลาดในภาคอสังหาริมทรัพย์จากทางภาครัฐ ที่ตอนนี้จำกัดเฉพาะแค่ทรัพย์มือ 1 ที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งทางผมยังมองว่าเป็นการกระตุ้นที่ยังไม่ตรงจุด ต้องได้ยาแรงมากกว่านี้ครับ
ในช่วงนี้จึงเป็นตลาดของผู้ซื้อที่จะเลือกสรรทรัพย์ดี ๆ เข้ามาอยู่ในพอร์ท ได้ทั้งเรื่องราคาและดอกเบี้ยกู้ยืมที่ต่ำแบบไม่เคยเห็นมาก่อน ในทางกลับกัน ผมยังคงแนะนำเจ้าของทรัพย์และนักลงทุนที่มีกำลังเพียงพอให้ถือทรัพย์สินไว้ และรอคอยช่วงเวลาที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขาขึ้นจะกลับมา และเมื่อเวลานั้นมาถึง เราคงจะได้เห็นรอยยิ้มมุมปากจากเจ้าของและนักลงทุน เตรียมพร้อมที่จะสะบัดบ้อบ กวักมือเลือกผู้ซื้อได้ตามต้องการครับ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ผู้เขียน : Mr.Residian
