คนญี่ปุ่นเช่าคอนโด เค้ามีงบกันเท่าไหร่?
การจะซื้อคอนโดปล่อยเช่า สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่เราจะต้องรู้ก็คือ คนเช่าเค้ามีงบเท่าไหร่ และเค้าจ่ายค่าเช่ากันอย่างไร วันนี้ถือว่า ZmyHome เอาเรื่องลับๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้มาเล่าให้ฟังกันทีเดียว
1.บริษัทเป็นคนออกงบให้ ชาวญี่ปุ่นที่บริษัทให้ย้ายมาทำงานเมืองไทย ปกติแล้วบริษัทจะเป็นคนออกงบค่าที่พักอาศัยให้ เพราะถือว่าพนักงานต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องที่พักเพิ่มขึ้น เมื่อต้องเดินทางมาทำงานต่างประเทศ ซึ่งชาวญี่ปุ่นเหล่านี้ก็จะมีงบค่าที่พักสูงกว่า ชาวญี่ปุ่นหรือชาวต่างชาติที่มาหางานทำเองในประเทศไทย
2.เซ็นสัญญาในนามบริษัทหรือในนามบุคคล ชาวญี่ปุ่นที่เซ็นสัญญาเช่ามักเซ็นด้วยกัน 2 ลักษณะ คือ 1.เซ็นสัญญาในนามบุคคล และ 2.เซ็นสัญญาในนามบริษัท ถ้าผู้เช่ารายไหนเซ็นสัญญาเช่าในนามบริษัท ผู้เช่าก็เรียกร้องให้เจ้าของห้องออกใบเสร็จรับเงินให้กับผู้เช่าด้วย อย่างไรก็ดีก็มีบางกรณีเหมือนกันที่ผู้เช่าที่เซ็นสัญญาเช่าในนามบุคคลจะขอใบเสร็จรับเงินจากเจ้าของห้อง
3.ค่าเช่าให้รวมอะไรบ้าง แต่ละบริษัทจะมีนโยบายเรื่องการจ่ายค่าเช่าให้กับพนักงานไม่เหมือนกัน บางบริษัทก็ให้จ่ายได้เฉพาะแต่ค่าเช่าเท่านั้น ห้ามรวมค่าเคเบิลทีวี ค่าอินเตอร์เน็ต ใดๆ ทั้งสิ้นอยู่ในค่าเช่า ส่วนบางบริษัทก็ให้รวมค่าใช้จ่ายที่เท่าๆ กันทุกเดือน เช่น ค่าเคเบิลทีวี หรืออินเทอร์เน็ตได้ ส่วนบริษัทไหนที่ใจดีมากๆ ก็ให้รวมค่าใช้จ่ายและค่าบริการต่างๆ เกี่ยวกับการพักอาศัยในค่าเช่าได้เลย เช่น ค่าแม่บ้าน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ซึ่งบริษัทเหล่านี้มักชอบที่จะให้พนักงานของตัวเองเช่าเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์อยู่ เพราะมีบริการที่ดีกว่าการเช่าคอนโดและลดปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยของผู้เช่า ซึ่งบางครั้งอาจต้องรบกวนบริษัทให้ช่วยแก้ปัญหาให้
4.งบแบบ 1 ห้องนอน ตามที่เล่าให้ฟังด้านบนเรื่องนโยบายเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเรื่องที่พักของพนักงาน ดังนั้นเราก็จะเห็นได้ว่าค่าเช่ามีโอกาสที่จะหลากหลายแตกต่างกันไป โดยงบค่าที่พักของห้องพักแบบ 1 ห้องนอน ซึ่งส่วนใหญ่จะพักอาศัยคนเดียว (อาจเป็นคนโสดหรือแม่บ้านยังไม่ได้ติดตามมาด้วย) งบก็จะเริ่มต้นตั้งแต่ 20,000 บาท ขึ้นไป (แต่งบประมาณระดับนี้ ส่วนใหญ่โบรกเกอร์ญี่ปุ่นมักจะไม่ค่อยได้รับทำ เพราะการทำงานกับ Corporate ญี่ปุ่น มักต้องช่วยเหลือพนักงานของเค้าเมื่อมีปัญหาเรื่องการเช่าด้วย ทำให้โดยส่วนมากแล้วโบรกเกอร์จะรับบริการลูกค้าที่มีงบมากกว่า 30,000 บาทขึ้นไป และส่วนใหญ่แล้วงบสำหรับห้องพักแบบ 1 ห้องนอน มักจะอยู่ระหว่าง 30,000-50,000 บาท อย่างไรก็ตามก็มีชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่มีงบสำหรับเช่าห้องพักแบบ 1 ห้องนอนอยู่ระหว่าง 60,000-75,000 บาท อย่างไรก็ตามผู้เช่าที่มีงบสูงเหล่านี้มักจะนิยมเช่าเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์มากกว่า เพราะต้องการบริการที่ครบครัน และบางคนต้องการบริการอาหารเช้าในวันเสาร์อาทิตย์ด้วย
5.งบสำหรับห้อง 2 ห้องนอน งบการเช่าห้องแบบ 2 ห้องนอนก็มีลักษณะคล้ายคลึงกับแบบ 1 ห้องนอน คือ มีช่วงกว้าง ตั้งแต่ 30,000 บาท ไปจะถึง 70,000-80,000 บาท ขึ้นอยู่กับฐานะของบริษัท ตำแหน่งของพนักงาน และขนาดครอบครัว สำหรับบริษัทญี่ปุ่นที่มีงบปานกลาง มักจะให้งบแบบ 2 ห้องนอนอยู่ระหว่าง 50,000-60,000 บาท ส่วนที่มีงบมากก็อาจจะเพิ่มไปถึงประมาณ 70,000-90,000 บาท อย่างไรก็ตามถ้าผู้เช่ามีงบถึง 90,000 บาท ส่วนใหญ่ก็มักจะมองหาห้องแบบ 3 ห้องนอน หรือ 2 ห้องนอนขนาดใหญ่ มากกว่า 150 ตร.ม. ขึ้นไป ส่วนบางครอบครัว ถ้าลูกโตแล้วและมีกัน 2-3 คน ก็อาจจะหาห้องที่ 200 ตร.ม. ขึ้นไปก็มี
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
1.บริษัทเป็นคนออกงบให้ ชาวญี่ปุ่นที่บริษัทให้ย้ายมาทำงานเมืองไทย ปกติแล้วบริษัทจะเป็นคนออกงบค่าที่พักอาศัยให้ เพราะถือว่าพนักงานต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องที่พักเพิ่มขึ้น เมื่อต้องเดินทางมาทำงานต่างประเทศ ซึ่งชาวญี่ปุ่นเหล่านี้ก็จะมีงบค่าที่พักสูงกว่า ชาวญี่ปุ่นหรือชาวต่างชาติที่มาหางานทำเองในประเทศไทย
2.เซ็นสัญญาในนามบริษัทหรือในนามบุคคล ชาวญี่ปุ่นที่เซ็นสัญญาเช่ามักเซ็นด้วยกัน 2 ลักษณะ คือ 1.เซ็นสัญญาในนามบุคคล และ 2.เซ็นสัญญาในนามบริษัท ถ้าผู้เช่ารายไหนเซ็นสัญญาเช่าในนามบริษัท ผู้เช่าก็เรียกร้องให้เจ้าของห้องออกใบเสร็จรับเงินให้กับผู้เช่าด้วย อย่างไรก็ดีก็มีบางกรณีเหมือนกันที่ผู้เช่าที่เซ็นสัญญาเช่าในนามบุคคลจะขอใบเสร็จรับเงินจากเจ้าของห้อง
3.ค่าเช่าให้รวมอะไรบ้าง แต่ละบริษัทจะมีนโยบายเรื่องการจ่ายค่าเช่าให้กับพนักงานไม่เหมือนกัน บางบริษัทก็ให้จ่ายได้เฉพาะแต่ค่าเช่าเท่านั้น ห้ามรวมค่าเคเบิลทีวี ค่าอินเตอร์เน็ต ใดๆ ทั้งสิ้นอยู่ในค่าเช่า ส่วนบางบริษัทก็ให้รวมค่าใช้จ่ายที่เท่าๆ กันทุกเดือน เช่น ค่าเคเบิลทีวี หรืออินเทอร์เน็ตได้ ส่วนบริษัทไหนที่ใจดีมากๆ ก็ให้รวมค่าใช้จ่ายและค่าบริการต่างๆ เกี่ยวกับการพักอาศัยในค่าเช่าได้เลย เช่น ค่าแม่บ้าน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ซึ่งบริษัทเหล่านี้มักชอบที่จะให้พนักงานของตัวเองเช่าเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์อยู่ เพราะมีบริการที่ดีกว่าการเช่าคอนโดและลดปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยของผู้เช่า ซึ่งบางครั้งอาจต้องรบกวนบริษัทให้ช่วยแก้ปัญหาให้
4.งบแบบ 1 ห้องนอน ตามที่เล่าให้ฟังด้านบนเรื่องนโยบายเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเรื่องที่พักของพนักงาน ดังนั้นเราก็จะเห็นได้ว่าค่าเช่ามีโอกาสที่จะหลากหลายแตกต่างกันไป โดยงบค่าที่พักของห้องพักแบบ 1 ห้องนอน ซึ่งส่วนใหญ่จะพักอาศัยคนเดียว (อาจเป็นคนโสดหรือแม่บ้านยังไม่ได้ติดตามมาด้วย) งบก็จะเริ่มต้นตั้งแต่ 20,000 บาท ขึ้นไป (แต่งบประมาณระดับนี้ ส่วนใหญ่โบรกเกอร์ญี่ปุ่นมักจะไม่ค่อยได้รับทำ เพราะการทำงานกับ Corporate ญี่ปุ่น มักต้องช่วยเหลือพนักงานของเค้าเมื่อมีปัญหาเรื่องการเช่าด้วย ทำให้โดยส่วนมากแล้วโบรกเกอร์จะรับบริการลูกค้าที่มีงบมากกว่า 30,000 บาทขึ้นไป และส่วนใหญ่แล้วงบสำหรับห้องพักแบบ 1 ห้องนอน มักจะอยู่ระหว่าง 30,000-50,000 บาท อย่างไรก็ตามก็มีชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่มีงบสำหรับเช่าห้องพักแบบ 1 ห้องนอนอยู่ระหว่าง 60,000-75,000 บาท อย่างไรก็ตามผู้เช่าที่มีงบสูงเหล่านี้มักจะนิยมเช่าเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์มากกว่า เพราะต้องการบริการที่ครบครัน และบางคนต้องการบริการอาหารเช้าในวันเสาร์อาทิตย์ด้วย
5.งบสำหรับห้อง 2 ห้องนอน งบการเช่าห้องแบบ 2 ห้องนอนก็มีลักษณะคล้ายคลึงกับแบบ 1 ห้องนอน คือ มีช่วงกว้าง ตั้งแต่ 30,000 บาท ไปจะถึง 70,000-80,000 บาท ขึ้นอยู่กับฐานะของบริษัท ตำแหน่งของพนักงาน และขนาดครอบครัว สำหรับบริษัทญี่ปุ่นที่มีงบปานกลาง มักจะให้งบแบบ 2 ห้องนอนอยู่ระหว่าง 50,000-60,000 บาท ส่วนที่มีงบมากก็อาจจะเพิ่มไปถึงประมาณ 70,000-90,000 บาท อย่างไรก็ตามถ้าผู้เช่ามีงบถึง 90,000 บาท ส่วนใหญ่ก็มักจะมองหาห้องแบบ 3 ห้องนอน หรือ 2 ห้องนอนขนาดใหญ่ มากกว่า 150 ตร.ม. ขึ้นไป ส่วนบางครอบครัว ถ้าลูกโตแล้วและมีกัน 2-3 คน ก็อาจจะหาห้องที่ 200 ตร.ม. ขึ้นไปก็มี
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
