High-Rise หรือ Low-Rise แบบไหนที่ใช่คุณ
สำหรับคนที่กำลังวางแผนจะซื้อคอนโดอาจจะยังมีข้อเปรียบเทียบในใจว่า จะเลือกซื้อคอนโดแบบไหนที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อได้ โดยคอนโดในปัจจุบันนี้ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ คอนโด Low-Rise และคอนโด High-Rise ซึ่งความแตกต่างระหว่างคอนโดก็จะแบ่งย่อยๆ ได้อีกหลายข้อ
ข้อกำหนดในการสร้างคอนโด High-Rise คือต้องสร้างติดถนนที่มีความกว้างเกิน 10 เมตรตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งข้อกำหนดนี้ทำให้คอนโด High-Rise จำเป็นต้องสร้างติดถนนใหญ่ เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก และทำให้จำนวนคอนโด High-Rise มีจำกัดกว่าคอนโด Low-Rise ในขณะที่คอนโด Low-Rise จะมีข้อจำกัดสร้างติดถนนที่มีความกว้าง 6 เมตร และในเรื่องของความสูงที่สร้างได้ 23 เมตร หรือ 8 ชั้นเท่านั้น แต่ก็ใช่ว่า คอนโด Low-Rise จะเดินทางไปไหนไม่สะดวก บางทำเลก็สามารถทะลุตรอกซอกซอยได้เยอะเหมือนกัน
ส่วนในเรื่องความหนาแน่นของยูนิตและความหลากหลายของสิ่งอำนวยความสะดวก ด้วยขนาดความสูงของคอนโด High-Rise ทำให้จำนวนยูนิตในโครงการมีมากกว่าในโครงการ Low-Rise อย่างแน่นอน จึงทำให้ตัวโครงการต้องจัดสรรให้มีพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางมากกว่า รวมไปถึงจำนวนที่จอดรถ เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนผู้อยู่อาศัย และเรื่องวิวทิวทัศน์ที่นับว่า คอนโด High-Rise ค่อนข้างได้เปรียบ เรื่องจากสามารถสร้างได้สูง ทำให้โอกาสที่อาคารข้างๆ จะบังวิวก็น้อยกว่า บางคอนโดเรื่องวิวถือว่าเป็นจุดขายสำคัญของคอนโดนั้นๆ เลยก็ว่าได้
แต่สำหรับผู้อยู่อาศัยที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัว คอนโดขนาด Low-Rise อาจจะตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้ตรงจุดกว่า เนื่องจากขนาดความสูงที่ถูกกำหนด จึงทำให้มีจำนวนยูนิตไม่มาก ไม่มีคนพลุกพล่านมากจนเกินไปนัก ไม่จำเป็นต้องสร้างติดถนนใหญ่ บางคอนโดอยู่ในซอยก็จะลดเรื่องมลพิษทางเสียง มีฝุ่นควันน้อยกว่า ผู้อยู่อาศัยก็จะได้รับความเป็นส่วนตัวมากกว่า แต่เนื่องจากจำนวนยูนิตที่น้อยกว่า ทำให้ค่าส่วนกลางของคอนโด Low-Rise มีอัตราสูงกว่าคอนโด High-Rise เช่นกัน
การเลือกซื้อคอนโดไม่ได้มีข้อสรุปตายตัวว่า คอนโดแบบไหนดีกว่ากัน เนื่องจากความชอบ ความต้องการของผู้ซื้อแต่ละคนแตกต่างกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ครบทุกด้าน เพื่อให้การลงทุนของท่านคุ้มค่า และตรงความต้องการของท่านมากที่สุด
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
ข้อกำหนดในการสร้างคอนโด High-Rise คือต้องสร้างติดถนนที่มีความกว้างเกิน 10 เมตรตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งข้อกำหนดนี้ทำให้คอนโด High-Rise จำเป็นต้องสร้างติดถนนใหญ่ เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก และทำให้จำนวนคอนโด High-Rise มีจำกัดกว่าคอนโด Low-Rise ในขณะที่คอนโด Low-Rise จะมีข้อจำกัดสร้างติดถนนที่มีความกว้าง 6 เมตร และในเรื่องของความสูงที่สร้างได้ 23 เมตร หรือ 8 ชั้นเท่านั้น แต่ก็ใช่ว่า คอนโด Low-Rise จะเดินทางไปไหนไม่สะดวก บางทำเลก็สามารถทะลุตรอกซอกซอยได้เยอะเหมือนกัน
ส่วนในเรื่องความหนาแน่นของยูนิตและความหลากหลายของสิ่งอำนวยความสะดวก ด้วยขนาดความสูงของคอนโด High-Rise ทำให้จำนวนยูนิตในโครงการมีมากกว่าในโครงการ Low-Rise อย่างแน่นอน จึงทำให้ตัวโครงการต้องจัดสรรให้มีพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางมากกว่า รวมไปถึงจำนวนที่จอดรถ เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนผู้อยู่อาศัย และเรื่องวิวทิวทัศน์ที่นับว่า คอนโด High-Rise ค่อนข้างได้เปรียบ เรื่องจากสามารถสร้างได้สูง ทำให้โอกาสที่อาคารข้างๆ จะบังวิวก็น้อยกว่า บางคอนโดเรื่องวิวถือว่าเป็นจุดขายสำคัญของคอนโดนั้นๆ เลยก็ว่าได้
แต่สำหรับผู้อยู่อาศัยที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัว คอนโดขนาด Low-Rise อาจจะตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้ตรงจุดกว่า เนื่องจากขนาดความสูงที่ถูกกำหนด จึงทำให้มีจำนวนยูนิตไม่มาก ไม่มีคนพลุกพล่านมากจนเกินไปนัก ไม่จำเป็นต้องสร้างติดถนนใหญ่ บางคอนโดอยู่ในซอยก็จะลดเรื่องมลพิษทางเสียง มีฝุ่นควันน้อยกว่า ผู้อยู่อาศัยก็จะได้รับความเป็นส่วนตัวมากกว่า แต่เนื่องจากจำนวนยูนิตที่น้อยกว่า ทำให้ค่าส่วนกลางของคอนโด Low-Rise มีอัตราสูงกว่าคอนโด High-Rise เช่นกัน
การเลือกซื้อคอนโดไม่ได้มีข้อสรุปตายตัวว่า คอนโดแบบไหนดีกว่ากัน เนื่องจากความชอบ ความต้องการของผู้ซื้อแต่ละคนแตกต่างกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ครบทุกด้าน เพื่อให้การลงทุนของท่านคุ้มค่า และตรงความต้องการของท่านมากที่สุด
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
