เตรียมบ้านอย่างไร? หากต้อง Home Isolation
ผู้ป่วยที่อยู่ในเกณฑ์สามารถรักษาตัวที่บ้านได้ จะต้องเป็น ผู้ติดเชื้อที่สบายดีหรือไม่มีอาการ (Asymptomatic cases, Mild symptomatic) ที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี, มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง, ไม่มีภาวะอ้วน และไม่มีโรคร่วมดังต่อไปนี้ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคไตเรื้อรัง (CKD stage 3, 4) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ และโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ รวมทั้งยินยอมแยกตัวอาศัยอยู่คนเดียว หรือมีผู้อยู่ร่วมที่พักไม่เกิน 1 คน ในสถานที่พักอาศัยตลอดระยะเวลากักตัว ไม่ให้ออกจากที่พัก
บ้านหรือที่พักอาศัยของผู้ป่วยโควิด-19 ในช่วงที่ต้องแยกตัว ควรจะต้องมีลักษณะดังนี้
- มีห้องนอนส่วนตัว ถ้าไม่มีควรมีพื้นที่กว้างพอที่จะนอนห่างจากผู้อื่นกรณีมีผู้อยู่ร่วมบ้าน และต้องเปิดประตู หน้าต่างให้ระบายอากาศได้ดี
- มีผู้จัดหาอาหารและของใช้จำเป็นให้ได้ ไม่ต้องออกไปจัดหานอกบ้านด้วยตนเอง
- ผู้ที่อยู่อาศัยร่วมบ้านสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องสุขอนามัย และการแยกจากผู้ป่วยได้
- สามารถติดต่อกับโรงพยาบาล และเดินทางมาโรงพยาบาลได้สะดวก
ลักษณะของที่พักอาศัยที่น่าจะเหมาะสมในการทำ Home Isolation
ดีที่สุดคือ บ้านที่มีบริเวณ ตัวบ้านเดี่ยวไม่ติดกับใคร และอยู่อาศัยเพียงลำพังได้ อันดับรองลงมาก็คือ ห้องชุดที่มีห้องน้ำในตัว ในหอพัก อพาร์ทเมนท์ หรือคอนโดมิเนียม ที่ขนาดไม่เล็กเกินไปและสามารถอยู่ได้โดยไม่เปิดแอร์ หากมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ไม่โครเวฟ ตู้เย็น ทีวี อินเตอร์เน็ท ก็จะยิ่งสะดวกมากขึ้นในการแยกตัวอยู่คนเดียว แต่อย่าลืมว่าผู้จัดหาอาหารและของจำเป็นให้ จะต้องเดินทางมาที่หน้าห้องได้ไม่ลำบาก และไม่ส่งผลกระทบกับผู้อาศัยร่วมรายอื่น ๆ ในอาคารเดียวกัน
ในกรณีที่จำเป็นต้องอยู่ในบ้านที่อาศัยร่วมกัน และผู้ป่วยยินดีที่จะเปลี่ยนจากห้องที่อยู่ประจำไปใช้ห้องอื่น ให้พิจารณาที่ ห้องน้ำ เป็นอันดับแรก ว่ามีห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวหรือไม่ หากไม่มีจะสามารถกำหนดห้องน้ำห้องใดห้องหนึ่งในบ้านให้ผู้ป่วยใช้งานคนเดียวได้หรือไม่ หากกำหนดได้แล้วว่าเป็นห้องใด ให้เลือกห้องที่อยู่ใกล้ห้องน้ำนั้นที่สุดทำเป็นห้องสำหรับแยกตัวผู้ป่วย เพื่อลดระยะทางและช่วงเวลาที่ผู้ป่วยจะใช้พื้นที่ส่วนกลางของบ้าน
หากในบ้านมีห้องน้ำจุดเดียวไม่สามารถแยกใช้ได้ ผู้ป่วยควรเข้าใช้เป็นคนสุดท้าย และพึงระมัดระวังการกระเด็นของละอองน้ำเป็นพิเศษ ทั้งจากการอาบน้ำแปรงฟันและขับถ่าย หากใช้ชักโครกให้ปิดฝาก่อนกดน้ำทุกครั้ง และหลังจากผู้ป่วยเข้าใช้ห้องน้ำ ให้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อทุกจุดสัมผัสทันที
ในห้องพักของผู้ป่วย ควรเตรียมหน้ากากอนามัย สเปรย์แอลกอฮอล์ กระดาษทิชชู ถังขยะซ้อนถุงพลาสติกเพื่อรับขยะติดเชื้อไว้ให้พร้อม หากยังมีอาการไอจามต้องสวมหน้ากากอนามัยไว้แม้ขณะที่อยู่ในห้องส่วนตัว เพื่อป้องกันละอองฝอยของน้ำลายหรือสารคัดหลั่งต่าง ๆ ปนเปื้อนภายในห้อง
ทั้งนี้ ยังมีข้อปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยที่รักษาตัวในบ้านอีกหลายข้อ เช่น ในระหว่างการรักษาขอให้งดเยี่ยม ไม่เข้าใกล้ผู้สูงอายุ และเด็ก, แยกของใช้ส่วนตัว แยกซักเสื้อผ้า, เปิดหน้าต่าง ไม่เปิดแอร์, ไม่กินข้าวด้วยกัน, สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่จะออกมาจากห้อง, ล้างมือทุกครั้งที่สัมผัสกับผู้อื่น หรือของใช้ที่ต้องใช่ร่วมกับผู้อื่น เป็นต้น
ผู้ป่วยที่จะรักษาตัวอยู่ที่บ้าน อย่าลืมที่จะสังเกตอาการของตัวเอง วัดอุณหภูมิและ oxygen saturation ทุกวัน หากมีอาการแย่ลง เช่น หอบ เหนื่อย ไข้สูงลอย ไม่สามารถปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ ให้รีบโทรติดต่อโรงพยาบาลที่ท่านรักษาอยู่ทันทีครับ
ซีมายโฮมขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยที่จะรักษาตัวอยู่ที่บ้าน และที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล สามารถเอาชนะเชื้อไวรัสและกลับมามีสุขภาพแข็งแรงได้ในเร็ววันนะครับ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ผู้เขียน : จเร ZmyHome
ข้อมูลจาก : แนวทางปฏิบัติสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ในการให้คำแนะนำผู้ป่วยและการจัดบริการผู้ป่วยโควิด-19 แบบ HOME ISOLATION ฉบับวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 กรณีระหว่างรอเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในโรงพยาบาล หรือระหว่างรอครบกำหนด 14 วัน หรือหลังจำหน่ายจากโรงพยาบาลหรือสถานที่รัฐจัดให้ก่อนกำหนด, กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข